สารอาหารในนมแม่
โรคภัยไข้เจ็บในปัจจุบันมีมากมายและมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะโรคในเด็กเล็กที่เริ่มเข้าศูนย์เด็กเล็ก หรือโรงเรียนอนุบาล เมื่อมาเจอกันในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน
พอมีเด็กป่วย 1 คน คนที่ 2, 3 และ 4 ก็ตามมา จนกระทั่งเรามักจะได้ยินข่าวการปิดโรงเรียนชั่วคราวอยู่บ่อย
ๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่าง ๆ ระบาด หรือโรคมือเท้าปาก ฯลฯ หากเป็นเมื่อ
30-40 ปีก่อน เชื่อว่าเราแทบจะไม่ได้ยินชื่อโรคต่างๆ นี้เลย อย่างมากก็ไข้หวัดใหญ่
(ยังไม่มีชื่อสายพันธุ์ด้วยซ้ำ) สาเหตุของการติดต่อกัน เนื่องจากเด็กในปัจจุบันมีภูมิต้านทานต่ำ
อาจขาดสารอาหารในนมแม่ที่จำเป็น
ซึ่งด้วยโรคที่มีเกิดขึ้นใหม่และพัฒนาสายพันธุ์ของเชื้อโรคให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้สาธารณะสุขและวงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เริ่มตระหนักถึงสาเหตุ
และหาทางป้องกันและแก้ไขในหลายปีที่ผ่านมานี้ จริง ๆ แล้ว สารอาหารในนมแม่นั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เด็กมีภูมิคุ้มกันโรคส่วนหนึ่ง
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ครอบคลุมทุกโรคก็ตาม
แต่ก็ถือว่ามีส่วนช่วยลดอาการเจ็บป่วยต่อโรคพื้นฐานของเด็กน้อยได้ดี เรียกได้ว่านมแม่มีประโยชน์ต่อลูกน้อยมากมายจริง
ๆ นอกจากช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้ลูกน้อยแล้วยังช่วย พัฒนาสมองของลูกน้อยอีกด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ มีการกล่าวอ้างถึง MFGM ขึ้นมาในข้อมูลทางการแพทย์ต่าง ๆ ซึ่ง MFGM คือ สารอาหารในนมแม่นั่นเอง โดย MFGM นี้จะประกอบไปด้วยโปรตีนจำเป็นและไขมันที่สำคัญมากกว่า
150 ชนิด อีกทั้งบทความต่าง ๆ ของการแพทย์ไทย ก็เริ่มจะพูดถึงว่า MFGM คือ สารสำคัญที่ทารกควรจะได้รับ
เพราะเป็นตัวช่วยให้ทารกมีพัฒนาการทางร่างกาย พัฒนาสมองและพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีอีกด้วย
หากเราเริ่มเป็นคุณแม่มือใหม่ เราควรจะตระหนักถึงความสำคัญของสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำนมแม่
เพราะลูกน้อยจะได้รับประโยชน์สูงสุดหากคุณแม่ทั้งหลายสามารถให้นมลูกได้ด้วยตัวเอง
นมแม่นั้นมีคุณประโยชน์มากกว่าวิตามินที่ทานเสริม หรือมากกว่าตัวยาใด ๆ ในโลก
จึงเป็นเรื่องที่ต้องมีการรณรงค์อย่างจริงจัง ในการให้คุณแม่พยายามให้นมลูกน้อยด้วยตนเอง
โดยทั่วไปควรให้นมลูกอย่างน้อย 6 เดือน แต่อันที่จริงแล้วคุณแม่สามารถให้นมบุตรได้ถึง
2 ปีเลยทีเดียว โดยหลังจาก 6 เดือนแรก อาจจะเสริมอย่างอื่นเพิ่มได้ แล้วค่อยๆ
หัดลูกน้อยให้ดื่มนมอย่างอื่นเสริม
