เมื่อลูกเกิด อาการโคลิค หรือ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ร้องเสียงดังแบบเป็นจริงเป็นจังไม่ยอมหยุดนานนับชั่วโมง
ร้องไห้ตัวโยนมือเท้าเกร็งไปหมด ความกังวล ความทุกข์ใจย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
คุณพ่อคุณแม่ต่างอยากเห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะของเจ้าตัวเล็กมากกว่าสิ่งอื่นใด ถ้าเห็นเด็กร้องไห้แค่ปกติพ่อแม่ก็ปวดใจแล้ว
แต่ยิ่งถ้าร้องไห้จากอาการโคลิคแบบนี้ก็ยิ่งกังวลใจเลย ว่าจะรับมืออย่างไรดี
วันนี้เรามีโปรไบโอติค จุลินทรีย์จากธรรมชาติที่จะช่วยบรรเทาอาการโคลิคมาแนะนำกัน
โปรไบโอติค เป็นจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในลำไส้
และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย สมดุลในลำไส้
และยับยั้งแบคทีเรียไม่ดีบางชนิด กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ เด็กทารกที่มีภาวะขาดความสมดุลในลำไส้เพราะจุลินทรีย์ดีมีน้อยเกินไป
มักจะก่อให้เกิดอาการผิดปกติด้านลำไส้ และร้องไห้ ซึ่งหากปล่อยไว้อาจจะมีผลเสียระยะยาวได้เช่นกัน
แล้วโปรไบโอติคสามารถแก้ปัญหา
เด็กร้องไห้
แบบโคลิคได้อย่างไร
โคลิค
แม้ปัจจุบันอาจจะยัไงม่สามารถระบุสาเหตุอย่างแน่ชัดได้ แต่อาจจะเกิดขึ้นจากพื้นฐานอารมณ์ของตัวเด็กเอง
ภูมิแพ้ การปรับตัวกับสิ่งแวดล้อม แต่ส่วนมากที่พบคือปัญหาเรื่องความสมดุลในลำไส้
พบมากในเด็กที่ไม่ได้คลอดด้วยวิธีธรรมชาติ และเด็กที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ โปรไบโอติคจะช่วยในเรื่องของความสมดุลภายในลำไส้
ช่วยบรรเทาอาการโคลิคได้
อยากเพิ่มจำนวนโปรไบโอติคในระบบลำไส้
ต้องทำยังไง
ที่จริงแล้วมีอาหารจากธรรมชาติที่มีโปรไบโอติค
เช่น โยเกิร์ต ชีส กิมจิ ผักดองพื้นบ้านของไทย น้ำนมแม่ เป็นต้น
ซึ่งอาหารที่กล่าวมานี้ล้วนอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
อย่างที่บอกว่าโปรไบโอติคเป็นจุลินทรีย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต
แน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตย่อมต้องการกินอาหารเพื่อช่วยในการดำรงอยู่และขยายปริมาณ
อาหารของโปรไบโอติคคือ พรีไบโอติค ได้แก่ กล้วย หัวหอม กระเทียม ถั่วเหลือง
หรืออาหารจำพวกผัก ผลไม้ที่มีกากใย รวมถึงน้ำนมแม่ด้วยเช่นกัน
เด็กคนไหนที่ไม่ได้ดื่มนมแม่ ก็แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ว่าจะดื่มนมชนิดอื่นที่มีโปรไบโอติคอย่างไรดี
หากไม่ทำการรักษาล่ะ
ลูกน้อยจะมีความผิดปกติด้านใดบ้าง
โคลิคจะดีขึ้นเมื่อเด็กย่างเข้าสู่วัย
4 6 เดือน แต่ในช่วงระหว่างที่มีอาการโคลิคนี้นอกจากเด็กที่จะมีความเสี่ยงสูงที่จะมีความผิดปกติเรื่องระบบลำไส้
ท้องผูกบ่อย บางทีก็ท้องเสียง่าย ส่งผลต่อการพักผ่อน พัฒนาการด้านร่างกาย
เป็นโรคภูมิแพ้ เป็นต้น พ่อแม่ก็อาจจะเกิดความเครียด ความกังวลจนทำให้เผลอทำร้ายร่างกายเด็ก
หรือเครียดมากได้ เพราะฉะนั้นแนะนำให้พ่อแม่ทุกคนมีสติ และเรียนรู้ว่าจะรับมือกับอาการโคลิคของเด็กอย่างไรดี